by www.zalim-code.com

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สรุปวิจัย

สรุปวิจัยเรื่อง ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน ของสุมาลี หมวดไธสง



     การจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน เป็นการส่งเสริมให้เด็กสนใจอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวล้วนประกอบด้วยความคิดรวมยอดทางกายภาพ ซึ่งจะฝึกได้โดยอาศัยการสังเกต การทดลองแ ละการถามคำถามประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่เด็กปฐมวัยได้รับจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเด็ก ถ้าเด็กรู้จักสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว เข้าใจสิ่งที่เขาสงสัย เข้าใจโลกที่เขาอยู่และสามารถพัฒนาการคิดการรู้จักหาคำตอบแบบวิทยาศาสตร์ได้
สรุปอภิปรายผลและข้อเสนอแนะการวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลองมีจุด มุ่ง หมายเพื่อ ศึกษาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน เพื่อเป็นแนวทางในการใช้วิ ธีการสอนและการจัดกิจกรรมให้ครูและผู้ เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยรวมทั้งส่งเสริมพัฒนาการและศักยภาพของเด็กปฐมวัย ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม สรุปได้ว่าความสามารถในการคิดเชิงวิเคราะห์ นั้นมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมากการคิดเชิงวิเคราะห์เป็นทักษะการคิดที่สามารถพัฒนาได้ตั้งแต่วัยเด็กเล็กและให้คงโตจนถึงระดับมหาวิทยาลัย เพื่อให้นักเรียนสามารถคิดได้ด้วยตนเอง และเกิดความสำเร็จในการเรียนรู้ เพราะการเรียนรู้ที่ดีต้องเป็นการเรียนรู้การรู้จักคิด โดยมีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนเกิดทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ซึ่งไม่ได้มุ่งเน้นในหลักสูตรปกติ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนคิดเป็น เรียนรู้เป็น สามารถคาดคะเน ใช้เหตุผล ตัดสินใจ และแก้ปัญหาต่างๆได้

                                                                                                    

ครั้งที่17

                                                                                        วันจันทร์ที่23 กันยายน 2556

                                                               บันทึกการเรียน

อาจารย์ได้ให้นักศึกษากลุ่มที่ทำแกงจืดออกมาสาธิตการสอนทำแกงจืด  โดยให้เพื่อนที่เหลือเป็นเด็กคอยตอบคำถามเวลาที่ครูสอนทำแกงจืด


เครื่องปรุงเต้าหู้หลอด
หมูสับปรุงรส
ซุปไก่ก้อน 

ซีอิ้วขาว
น้ำตาลทราย
ต้นหอม
ผักชี
น้ำเปล่า

เครื่องปรุงหมูสับปรุงรสหมูสับ
น้ำมันหอย
ซีอิ้วขาว
น้ำตาลทราย 

พริกไทยป่น 









วิธีทำ
1. นำหมูสับมาผสมกับเครื่องปรุงต่างๆ คือน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น คลุกเคล้าเครื่องปรุงให้เข้ากับหมูสับ พักไว้

2. ตัดรากต้นหอมและผักชี นำไปล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วหั่นเป็นท่อนๆ จากนั้น นำเต้าหู้หลอดมาหั่นเป็นแว่นขนาดหนาประมาณ 1.5 ซม. 
3. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ใส่ซุปไก่ก้อนลงไป พอน้ำเดือดแล้วให้นำเต้าหู้หลอดที่หั่นไว้ใส่ลงไป รอจนน้ำเดือดอีกครั้งจึงตักหมูสับที่ปรุงไว้เป็นก้อนเล็กๆ ทะยอยใส่ลงไป 
4. ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) และน้ำตาลทราย จากนั้นก็นำต้นหอมและผักชีที่หั่นเป็นท่อนแล้วใส่ลงไป รอจนน้ำเดือดอีกครั้งแล้วปิดเตาทันที
5. ตักใส่ถ้วย โรยด้วยพริกไทยป่นเล็กน้อย จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ














แต่ละขั้นตอนคุณครูต้องคอยตั้งคำถามกับเด็กให้เด็กได้สังเกตว่าเมื่อทำอย่างนี้จะเป็นอย่างไร มันเกิดอะไรขึ้น สีของมันเป็นอย่างไร มีลักษณะอย่างไร และควรให้เด็กได้ลงมือทำเองโดยมีคุณครูดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยค่ะ


แกงจืดที่นักศึกษาช่วยกันทำออกมา หน้าตาน่ากินเชียวค่ะ

















ครั้งที่16

                                                                                       วันจันทร์ที่16 กันยายน 2556

                                                              บันทึกการเรียน

 นักศึกษาเขียนแผนการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์  โดยให้นักศึกษาช่วยกันเขียนMy Mappingเกี่ยวกับอาหารเด็กปฐมวัย และเลือกเมนูอาหารที่ต้องการจะทำขึ้นมาหนึ่งอย่าง  พร้อมบอกอุปกรณ์  วัตถุดิบที่ใช้  ประโยชน์ของอาหารชนิดนั้น   รวมไปถึงขั้นตอนของการทำอาหาร เมื่อนักศึกษาแต่ละกลุ่มเขียนเสร็จ  ก็ได้ออกไปนำเสนอ  และร่วมกันเลือกว่าจะใช้เมนูไหนสาธิตสอนเด็ก  สรุปออกมาว่าจะร่วมกัน  ทำแกงจืด เนื่องจากเป็นเมนูที่ทำง่าย และนักศึกษาทุกคนก็คุ้นเคยกับอาหารชนิดนี้ดี    

เครื่องปรุง-วัตถุดิบที่ต้องเตรียมมาทำในสัปดาห์ต่อไป

 
เครื่องปรุงเต้าหู้หลอด 
หมูสับปรุงรส
ซุปไก่ก้อน

ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา)
น้ำตาลทราย
ต้นหอม
ผักชี
น้ำเปล่า 

เครื่องปรุงหมูสับปรุงรสหมูสับ
น้ำมันหอย
ซีอิ้วขาว
น้ำตาลทราย
พริกไทยป่น




ครั้งที่15

                                                                        วันอาทิตย์  ที่15 กันยายน (เรียนชดเชย)

                                                         บันทึกการเรียน

นักศึกษานำเสนองานสื่อการสอนทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยดังนี้
-ดอกไม้บาน
วิธีการทดลองทำดอกไม้บาน
อุปกรณ์
1.กระดาษ
2.ดินสอ สีไม้
3.กรรไกร
4.อ่างน้ำ

ขั้นตอนการทดลอง
1.วาดภาพดอกไม้ระบายสีให้สวยงาม
2.ตัดรูปดอกไม้ที่วาดระบายสีเสร็จแล้ว
3.พับกลีบดอกไม้เข้าตรงกลางให้ดอกไม้ตูม
4.วางดอกไม้ที่พับลงบนผิวน้ำ 
5.สังเกตว่าดอกไม้บานออกหรือไม่ และจดบันทึก สรุปผล

แนวคิดทางวิทยาศาสตร์: การทดลองนี้เกิดจากการที่น้ำดูดซึมและแพร่กระจายเข้าไปในกระดาษ จึงเป็นที่มาของการลำเลียงน้ำได้ ส่งผลให้กระดาษดอกไม้ที่พับอ่อนตัวและบานออกมา



- ข้าวยกได้

อุปกรณ์

1.ขวดน้ำพลาสติก
2.ข้าว
3.ตะเกียบ/ดินสอ

ขั้นตอนการทดลอง
1.เทข้าวลงในขวด
2.อัดให้แน่น
3.ลองยกตะเกียบที่อัดแน่นไปด้วยข้าวไว้ในขวดดู
4.สังเกตว่ายกได้หรือไม่ และจดบันทึก สรุปผล

แนวคิดทางวิทยาศาสตร์: ถึงแม้ข้าวจะมีลักษณะเป็นเม็ดๆ แต่เมื่อข้าวสารถูกอัดแน่นลงในขวด แรงเสียดทานระหว่างข้าวสารกับตะเกียบจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะเหตุนี้เมื่อดึงกะเกียบขึ้น ตะเกียบจะไม่หลุดออกมาแต่จะดึงขวดขึ้นมาด้วย

DSC04724
 

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

ครั้งที่14

                                                                                          วันจันทร์ ที่9 กันยายยน 2556

                                                            บันทึกการเรียน

*งดการเรียนการสอน เนื่องจากอาจารย์ไปงานสัมนาที่ต่างจังหวัด 
นัดเรียนชดเชยอีกในวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2556


[ศึกษาความรู้เพิ่มเติม]


ความลับของสี



chromotography

สีต่างๆที่เราเห็น ไม่ได้ประกอบด้วยสีเดียวเสมอไปนะ  ในแต่ละสีอาจมีรวมกันอยู่ถึง 4 สี เรามาทดลองเพื่อเผยความลับของสีกันเถอะ

สิ่งที่ต้องใช้

  • สีเมจิ สีดำ , น้ำเงิน , น้ำตาล (สีเข้มๆจะให้ผลการทดลองที่น่าตื่นเต้น)
  • กระดาษกรองกาแฟ , กรองตะกอนน้ำมัน
  • แก้วใส่น้ำ

วิธีทดลอง

    • ตัดกระดาษกรองเป็นแถบยาวๆ
    • ระบายสีเมจิที่ต้องการทดสอบให้เป็นแถบหนา โดยห่างจากปลายกระดาษประมาณ 1 ซม.
    • จุ่มปลายกระดาษในช่วงที่เว้นไว้ 1ซม. ลงในน้ำ *ระวังอย่าให้เส้นสีที่ขีดไว้จมน้ำ เพราะสีจะลายลายลงน้ำ
    • รอดู สังเกตแถบสีที่เริ่มไต่สูงขึ้นไปบนกระดาษกรอง  เธอเห็นสีอะไรซ่อนอยู่?
    • นำกระดาษไปหนีบผึ่งไว้กับที่ตากถุงเท้า แล้วทดลองสีต่อไป

chromotographyเพราะอะไรกันนะ

                สีสังเคราะห์เกิดจากการผสมของแม่สี คือ แดง เหลือง น้ำเงิน ในอัตราส่วนไม่เท่ากัน ทำให้เกิดสีต่างๆมากมาย  การแยกสีด้วยกระดาษกรองนี้ เราเรียกว่า "เปอเปอร์โครมาโทกราฟี" (Paper Chromatography) ซึ่งเป็นการแยกสารที่ผสมกันในปริมาณน้อยให้แยกออกมาเป็นแถบเส้นสีหรือแถบสี อาศัยสมบัติ 2 ประการ คือ
    1. สารต่างชนิดกันมีความสามารถในการละลายในตัวทำละลาย (น้ำ) ได้ต่างกัน

    2. สารต่างชนิดกันมีความสามารถในการถูกดูดซับด้วยตัวดูดซับ (กระดาษกรอง)ได้ต่างกัน

สารที่ละลายในตัวทำละลายได้ดีส่วนมากจะถูกดูดซับไม่ดี จึงเคลื่อนที่ไปได้ไกล ส่วนสารที่ละลายในตัวทำละลายได้ไม่ดี ส่วนมากจะถูกดูดซับได้ดีจึงอยู่ใกล้จุดเริ่มต้น

ครั้งที่13

                                                                                              วันจันทร์ที่2 กันยายน 2556

                                                            บันทึกการเรียน

พรีเซนต์งานกลุ่มทำสื่อเข้ามุม เรื่อง "กระดาษเปลี่ยนสี"

อุปกรณ์ 
              1. กระดาษแข็ง
              2. กระดาษแก้ว 3 สี
              3. กาว
              4. กรรไกร
              5. เชื่อก

วิธีทำ 
         1. นำกระดาษแข็มมาตัดวัดขนาดแล้วตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วตัดช่องตรงกลางออกให้เป็เหมือนกรอบรูป


     
         2.  ติดกระดาษแก้วลงไปในกรอบ ( ทำแบบนี้เหมือนกันทั้ง 3 สี )
               

         3. นำมาตกแต่งให้สวยงาม
               


วิธีเล่น 
           1. นำกระดาษแก้วสีแรกมาวางซ้อนกับสีที่สอง
           2.  นำกระดาษแก้วยกขึ้นแล้วมองผ่านกระดาษแก้ว จะเห็นว่าจะเห็นอีกสีเกิดขึ้นมา

หลักการ  
              เกิดจากการหักเหของแสงที่ผ่านแม่สีทั้ง 3  สี ที่อยู่ในรูปขอแสงรังสี จึงทำให้เราสามารถมองเห็นสีอีกสีที่เกิดขึ้น
 
สมาชิกในกลุ่ม
-นางสาวศศิธร แสงเภา
-นางสาวดาราวรรณ น้อมกลาง
-นางสาวนพมาศ คำมั่น
 

ครั้งที่12

                                                                                           วันจันทร์ ที่26 สิงหาคม 2556

                                                            บันทึกการเรียน

นักศึกษาทุกกลุ่มเตรียมประดิฐษ์สื่อเข้ามุม กลุ่มดิฉันวางแผนจะประดิฐษ์ "กระดาษเปลี่ยนสี" และแบ่งหน้าที่ให้แต่ละฝ่ายช่วยกันทำ มีดังนี้

-ฝ่ายจัดหาอุปกรณ์การทำ

-ฝ่ายออกแบบ

-ฝ่ายจัดทำ

เมื่อทำสื่อเสร็จสิ้นแล้วก็เตรียมตัวพรีเซนต์งานในสัปดาห์ถัดไป